ต้นกำเนิด Play station

ต้นกำเนิด Play station

หนึ่งในเครื่องเล่นเกมส์ Console เจ้าดังที่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทุกๆ คนใฝ่ฝันก็คงจะหนีไม่พ้นเครื่องเล่นเกมส์อย่าง “Play station” หรือที่รุ่นปัจจุบันที่เรียกสั้นๆ ติดปากกันว่า “PS5” ซึ่งตอนออกมาช่วงแรกนั้นประสบปัญหาขาดแคลนสินค้าเป็นอย่างมากเลยหล่ะครับ แต่นอกจากความพิเศษและประสิทธิภาพของตัวเครื่องแล้ว ท่านเคยทราบเกี่ยวกับ “ต้นกำเนิด Play station” กันบ้างมั้ยหล่ะครับ วันนี้เราเลยอยากจะพาทุกๆ ท่านดำดิ่งลงไปดูเรื่องราวกันสักเล็กน้อยครับ และเพื่อเป็นการไม่เสียเวลาอันแสนมีค่า เราไปดูเนื้อหากันเล้ยย!!!

กำเนิดเครื่อง Play station

เพลย์สเตชัน (PlayStation) เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมระบบ 32 บิตที่พัฒนาและวางตลาดโดยโซนี่คอมพิวเตอร์เอนเตอร์เทนเมนท์ วางจำหน่ายในญี่ปุ่นในวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 1994 ในอเมริกาเหนือในวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1995 ในยุโรปในวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 1995 และในออสเตรเลียในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1995 ในฐานะเครื่องเล่นวิดีโอเกมยุคที่ห้า เพลย์สเตชันแข่งขันกับนินเท็นโด 64 และ เซกา แซตเทิร์นเป็นหลัก

โซนีเริ่มพัฒนาเพลย์สเตชัน หลังจากล้มเหลวในการร่วมทุนกับนินเท็นโดในการสร้างอุปกรณ์ต่อพ่วงแผ่นซีดีสำหรับเครื่องซูเปอร์แฟมิคอมในต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 เครื่องเล่นวิดีโอเกมนี้ได้รับการออกแบบโดยเคน คูตาระกิ และโซนี่คอมพิวเตอร์เอนเตอร์เทนเมนท์ในญี่ปุ่นเป็นหลัก ในขณะที่การพัฒนาเพิ่มเติมนั้นได้รับการว่าจ้างจากทีมงานภายนอกในสหราชอาณาจักร การเน้นที่กราฟิกรูปหลายเหลี่ยม 3 มิติถูกวางไว้ที่ส่วนหน้าของการออกแบบเครื่องเล่นวิดีโอเกมนี้ การผลิตเกมของเพลย์สเตชันได้รับการออกแบบให้มีความคล่องตัวและครอบคลุม ซึ่งดึงดูดการสนับสนุนจากนักพัฒนาบุคคลที่สามจำนวนมาก เครื่องเล่นวิดีโอเกมนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้รับความนิยมจากคลังเกมที่กว้างขวาง แฟรนไชส์ที่ยอดนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

วิวัฒนาการของเครื่องเล่นเกมส์ Play Station

►PlayStation รุ่นแรกเริ่มวางจำหน่ายในปลายปี 1994 ที่ญี่ปุ่น ก่อนที่จะวางจำหน่ายในประเทศอื่น ๆ ช่วงปลายปี 1995 ราคาเปิดตัว 39,800 เยน เล่นเกมผ่านแผ่น CD สามารถเล่นแผ่นเพลง CD Audio ได้ เป็นเครื่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคนั้น

PlayStation 2 ยุคที่สองที่สานต่อความสำเร็จจากยุคก่อนหน้า เริ่มวางจำหน่ายในปี 2000 ที่ราคา 39,800 เยน เล่นเกมผ่านแผ่น DVD โดยมีเกมบางส่วนที่ยังเป็น CD อยู่ สามารถเล่นเกมของ PS1 และแผ่น DVD ภาพยนตร์ได้ ตัวเครื่องถูกดีไซน์มาให้สามารถวางเครื่องในแนวตั้งได้ PS2 ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องเกมที่มียอดขายสูงสุดในยุคนั้น แต่ยังเป็นเครื่องเกมที่มียอดขายสูงที่สุดตลอดกาลอีก

► PSP หรือ PlayStation Portable เป็นเครื่องเกมพกพาเครื่องแรกของ Sony เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2004 ที่ราคา 19,800 เยน มาพร้อมหน้าจอ Widescreen TFT LCD ขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 480 x 272 พิกเซล เล่นเกมผ่านแผ่น UMD และสามารถดาวน์โหลดเกมจาก PlayStation Store ลงใน Memory Stick PRO Duo ได้ ซึ่งมีเกมของ PS1 ให้โหลดมาเล่นด้วย

►PlayStation 3 เป็นเครื่อง PlayStation ที่เปิดตัวด้วยราคาแพงที่สุด เริ่มต้นที่ 49,980 เยน แบ่งออกเป็นหลายรุ่นตามขนาดความจุฮาร์ดดิสก์ เป็นยุคที่เริ่มรองรับการเล่นเกมออนไลน์เต็มรูปแบบ เล่นเกมผ่านแผ่น Blu-ray กราฟิกระดับ HD โดยสามารถเล่นแผ่นเกมของ PS1 และ PS2 ได้ แต่มีเฉพาะรุ่น 20/60/80GB เท่านั้นที่สามารถเล่นแผ่น PS2 ได้ และสามารถดาวน์โหลดเกมจาก PS Store

►PlayStation Vita เครื่องเกมพกพายุคที่ 2 ของ Sony เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2011 ที่ราคาเริ่มต้น 24,980 เยน เปลี่ยนจากการเล่นเกมผ่านแผ่น UMD ไปใช้ PS Vita Card แทน สามารถเล่นเกมของ PS1 และ PSP ได้ด้วยการดาวน์โหลดจาก PS Store ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอ OLED แบบทัชสกรีนขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 960 x 544 พิกเซล พร้อมทัชแพดหลังเครื่องสำหรับเพิ่มลูกเล่นในการควบคุมเกม PS Vita จัดว่าเป็น PlayStation ที่ขายได้น้อยที่สุด ถึงแม้ว่าจะได้รับความนิยมในญี่ปุ่นอยู่บ้าง แต่สำหรับตลาดทั่วโลกแล้วถือว่าซบเซาเป็นอย่างมาก

►PlayStation 4 ที่เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2013 ที่ราคา 38,980 เยน อัพเกรดกราฟิกสู่ระดับ Full HD โดยยังคงใช้แผ่น Blu-ray อยู่เช่นเดิม แต่ไม่สามารถเล่นเกมของ PlayStation ยุคก่อนหน้าได้เลย รองรับการเชื่อมต่อกับบริการโซเชียลต่าง ๆ สามารถแคปภาพและอัดคลิปวิดีโอได้ในตัว รวมทั้งการสตรีมมิ่งเกมแบบสดๆ ได้รับความนิยมไปทั่วโลกและมียอดขายที่ค่อนข้างน่าพึงพอใจ

►PlayStation 5 คอนโซลยุคแรกที่เปิดตัวมาโดยแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นปกติที่จะมาพร้อมช่องใส่แผ่น Ultra HD Blu-ray กับรุ่น Digital Edition ที่ไม่มีช่องใส่แผ่น สำหรับเล่นเกมแบบ Digital Download เท่านั้น ใช้ GPU รองรับเทคโนโลยี Ray-tracing ใช้หน่วยความจำแบบ SSD โดยเกมแบบแผ่น Ultra HD Blu-ray จะมีความจุสูงสุด 100GB รองรับการเล่นเกมของ PlayStation 4 พร้อมจอยแบบใหม่ DualSense ที่มี Haptic Feedback ซึ่งเป็นเหมือนระบบสั่นแบบใหม่ และปุ่ม Trigger อย่าง L2/R2 ที่เป็นแบบ Adaptive รวมทั้งลูกเล่นใหม่ๆ ที่จะทำให้ประสบการณ์เล่นเกมส์ของทุกคนเปลี่ยนไปตลอดกาลครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “ต้นกำเนิด Play station” ที่พวกเราได้รวบรวมมาฝากท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านกันในบทความนี้ คิดว่าน่าจะพอจับใจความกันได้ไม่มากก็น้อยนะครับ สุดท้ายนี้ก็อยากให้ทุกๆ ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเครื่องเล่นเกมส์นี้กันดูครับ