“การบ้าน” ในยุคนี้ยังจำเป็นอยู่ไหม?

“การบ้าน” ในยุคนี้ยังจำเป็นอยู่ไหม?

ในอดีตสำหรับคนส่วนใหญ่ก็คงจะไม่มีใครที่ไม่เคยสัมผัสหรือทำในสิ่งที่เรียกกันว่าการบ้าน แล้วก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะมีคนโดนตีเนื่องจากไม่ยอมทำการบ้านเพราะอยากที่จะรีบไปเล่นกับเพื่อนๆ แถวบ้าน ทั้งนี้ในอดีตเรื่องของการทำการบ้านก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะคุณครูต้องการที่จะให้เด็กๆ ได้ทบทวนบทเรียน การให้การบ้านจึงเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เด็กๆ ได้ทบทวนบทเรียนได้อย่างสะดวก

แต่ถ้าหากพูดถึงในยุคปัจจุบัน ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังค่อยๆ เฟื่องฟู เด็กๆ เริ่มเรียนพิเศษมากกว่าเรียนภายในห้องเรียน ก็เริ่มจะมีข้อสงสัยกันเกิดขึ้นแล้วว่า“การบ้าน” ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคนี้อยู่หรือไม่ เพราะว่าในอดีตเด็กๆ หลังเลิกเรียนก็คงจะออกมาวิ่งเป็นแต่ในปัจจุบันแม้แต่เด็กตัวเล็กๆ หลังเลิกเรียนก็ยังต้องไปเรียนพิเศษ กว่าจะกลับบ้านมาก็ดึก แล้วยังต้องทำการบ้านของโรงเรียนต่อ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงการบ้านอาจจะเป็นตัวช่วยทบทวนที่อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายมากเกินไปหรือเปล่า

โดยเรื่องของการทำการบ้านเหล่านี้เองก็กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าควรยกเลิกหรือไม่ เนื่องจากว่าเสียงของคุณครูถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายหนึ่งก็มองว่าการให้การบ้านต่อเด็กๆ เป็นสิ่งที่ดีเพราะการบ้านจะเป็นตัวช่วยเรียบเรียงความรู้และเสริมสร้างกระบวนความคิดให้กับเด็กๆ มากยิ่งขึ้น การที่เด็กๆ จะยอมเสียเวลามาทำสักเล็กน้อยก็ดูเป็นเรื่องที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงอะไร ในขณะที่อีกฝ่ายกลับมองว่าการให้การบ้านกับเด็กนักเรียนเป็นการทรมานเด็กและทำให้เด็กๆ ไม่มีเวลาว่าง มีเวลาพักผ่อนน้อยลงอีกด้วย

แต่หากให้พูดถึงแล้วการบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้นักเรียนได้ทำการทบทวนบทเรียนซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่ดีที่ควรจะมี แต่ทั้งนี้ทางเราก็มองว่าคุณครูสามารถสั่งการบ้านได้แต่ก็ไม่ควรที่จะมีอยู่ใปริมาณมากจนเกินไปจนเด็กๆ ไม่มีเวลาพักผ่อน สิ่งที่คุณครูต้องทำก็เพียงแค่ลดปริมาณการบ้านให้น้อยลง และอาจจะให้เด็กๆ ได้ลองทำแบบฝึกหัดภายในห้องมากยิ่งขึ้นเพื่อให้เด็กๆ ได้รู้จักกับเนื้อหาและบทเรียนภายในห้องและหากมีปัญหาหรือสงสัยในเรื่องอะไรก็สามารถถามคุณครูภายในห้องเรียนได้เลย ถือว่าเป็นการเพิ่มบทบาทของคุณครูที่โรงเรียนให้มีความสำคัญที่มากขึ้นและอาจจะให้มากกว่าคุณครูที่ทำการสอนพิเศษอีกด้วย นอกจากนี้อาจจะมีการจัดการเรียนการสอนแบบตั้งคำถามแต่ไม่มีการบ้านเพื่อให้เด็กๆ ได้คิดและพัฒนาตนเอง แถมคุณครูก็จะได้รู้ ณ ตอนนั้นเลยว่าเด็กๆ เข้าใจในเนื้อหาหรือไม่ ดีกว่าการให้การบ้านกองพะเนินแต่เด็กๆ เรียนไม่เข้าใจเป็นไหนๆ